คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคือ?
ขั้นต้นเรามาทำความรู้จักกับ "คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า" ก่อน
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่มีความถี่สูงกว่าแสงที่ตาเปล่ามองเห็น
โดยมีความถี่ในช่วง 1015 ถึง 1018 เฮิรตซ์
เรียกว่า รังสีอัลตราไวโอเลตหรือ รังสีเหนือม่วง เกิดจากการปลดปล่อยอิเล็กตรอน
รังสีอัลตราไวโอเลตตามธรรมชาติส่วนใหญ่มาจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์
รังสีอัลตราไวโอเลตไม่สามารถเคลื่อนที่ทะลุผ่านสิ่งกีดขวางหนา ๆ ได้
ดังนั้นบริเวณผิวโลกจึงไม่มีรังสีอัลตราไวโอเลตมากนัก เนื่องจากบรรยากาศดูดกลืนรังสีไว้บางส่วน แต่ในปัจจุบันรังสีอัลตราไวโอเลตมาสู่พื้นโลกมากเนื่องจาก
สารบางชนิดที่ผสมอยู่ในสเปรย์หรือน้ำยาของเครื่องปรับอากาศ
การใช้ปุ๋ยประเภทไนโตรเจน ลูกระเบิดนิวเคลียร์ การเผาไหม้ของโฟมหรือ พลาสติก
เป็นปัจจัยลดปริมาณแก๊สโอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ได้มาก
ปัจจุบันมีการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในหลายๆด้านเช่น
การติดต่อสื่อสาร (มือถือ โทรทัศน์ วิทยุ เรดาร์ ใยแก้วนำแสง) ทางการแพทย์
(รังสีเอกซ์) การทำอาหาร (คลื่นไมโครเวฟ) การควบคุมรีโมท (รังสีอินฟราเรด)
คุณสมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าคือเป็นคลื่นที่เกิดจากคลื่นไฟฟ้าและคลื่นแม่เหล็กตั้งฉากกันและเคลื่อนที่ไปยังทิศทางเดียวกัน
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถเดินทางได้ด้วยความเร็ว 299,792,458 เมตร/วินาที หรือเทียบเท่ากับความเร็วแสง
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เกิดจากการรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic
disturbance) โดยการทำให้สนามไฟฟ้าหรือสนามแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อสนามไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็ก
หรือถ้าสนามแม่เหล็กมีการเปลี่ยนแปลงก็จะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามไฟฟ้า
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นตามขวาง
ประกอบด้วยสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กที่มีการสั่นในแนวตั้งฉากกัน
และอยู่บนระนาบตั้งฉากกับทิศการเคลื่อนที่ของคลื่น
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่เคลื่อนที่โดยไม่อาศัยตัวกลาง
จึงสามารถเคลื่อนที่ในสุญญากาศได้